วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ร้านอาหารในกรุงเทพ




ที่ตั้ง : 10 ซอย สามเสน 3 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ

โทร : 0-2628-8362เปิดบริการ : 17.00 - 01.00 น.

ร้าน สามเสนสโมสร ชื่อก็บอกแล้วว่าอยู่แถวไหน ด้วยบรรยากาศที่เน้นความเรียบง่าย โล่งๆ โปร่งตา รับลมเย็นๆ ได้ตลอดเวลา การตกแต่งร้านจัดแบ่งเป็น 3 โซน เริ่มจากตัวบ้านเก่าที่มีโต๊ะโกลด์และพูลให้เล่นกันสนุกๆ ถัดมาเป็นโซน Open Air ดูสบายตาด้วยโทนสีขาวของโต๊ะเก้าอี้ และบริเวณบาร์ใต้ต้นไทรใหญ่ประดับโคมไฟ ทั้งยังได้สัมผัสกับทัศนียภาพยามเย็นของแม่น้ำเจ้าพระยา และแสงไฟจากสะพานพระราม 8 ได้อีกต่างหาก

แนะนำให้มาถึงค่ำหน่อยก็ดีค่ะ จะได้ทานข้าวก่อนถึงเวลาลอยกระทงไง ว่าแต่คงอยากรู้กันแล้วว่าร้านนี้เค้ามีอะไรเด็ดๆ
มานำเสนอ เริ่มเมนูออร์เดิร์ฟ ไก่ทอดเกลือ (150 บาท) ชิ้นไก่เนื้อแน่น คลุกเกลือและชุบแป้งทอด กัดแล้วกรอบนอกนุ่มใน ถัดมาเป็นเมนูยอดฮิต กุ้งสามเสน (200 บาท) กุ้งแม่น้ำตัวโตราดด้วยน้ำเครื่องต้มยำเข้มข้น อีกจานไม่ควรพลาด ปลาเก๋าผัดพริกไทยดำ (150 บาท) เนื้อปลาคลุกแป้งทอดก่อนจะผัดกับเครื่องพริกไทย อร่อยแบบเผ็ดนิดๆ
และเมนูใหม่ล่าสุดจากครัว ปูนิ่มหลน (120 บาท) ที่ทานเนื้อปูได้ทั้งหมด ชิมน้ำหวานนำ ทานเคียงกับผักสดผักลวกที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน หลังจากอิ่มท้องได้สักพักแล้วลองตบท้าย Enjoy Soi Samsen (120 บาท) ค็อกเทลดีกรีเบาๆ สำหรับคุณสุภาพสตรี ที่มีกลิ่นหอมรสชาติหวานเปรี้ยว ด้วยส่วนผสมของเหล้ารัม และ Cointreau
พอจะรู้จักร้านนี้กันมากขึ้นบ้างแล้ว ส่วนเรื่องการเดินทางมาร้าน สามารถดูเส้นทางได้ตามแผนที่ มาได้จากปากซอย 3 และ 5 ให้จอดรถบริเวณวัดสามพระยา ทางร้านมีรถกอล์ฟบริการรับ-ส่งนะจ๊ะ.....









สถานที่เที่ยวในกรุงเทพ

วันนี้พาชม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร อยู่ใกล้ๆกับ สนามหลวง ,กระทรวงกลาโหม และวัดโพธ์ ภายในวัดอากาศไม่ร้อน ร่มรื่นเย็นสบาย ยกเว้นออกไปเดินกลางแจ้งหรือกลางแดดจะร้อนหน่อยนะคะ  ช่วงนี้จะพาชมวัดถี่หน่อยนะคะ เพราะตั้งใจจะเที่ยววัดในกรุงเทพฯให้ชุ่มปอด
*หมายเหตุ แต่งกายสุภาพในการเข้าชมวัด อนุญาติให้ใส่กางเกงขายาวได้ทั้งหญิงและชาย สำหรับร้องเท้าแตะฟองน้ำ กางเกงขาสั้น และกระโปรงสั้นจู๋ไม่ควรอย่างยิ่ง

ประวัติของวัดพระศีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระแก้ว นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗ เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออก มีพระระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
 รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ ภายหลังจากการสถาปนาแล้ว ก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล เพราะเป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปี คือในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน
เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ที่ผ่านมา การบูรณปฏิสังขรณ์ที่ผ่านมา มุ่งอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันเป็นมรดกชิ้นเอกของชาติ ให้คงความงามและรักษาคุณค่าของช่างศิลปไทยไว้อย่างดีที่สุด เพื่อให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้อยู่คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดไป


พระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ หลังคาลด ๔ ระดับ ๓ ซ้อน มีช่อฟ้า ๓ ชั้น ปิดทองประดับกระจก ตัวพระอุโบสถมีระเบียงเดินได้โดยรอบ มีหลังคาเป็นพาไลคลุม รับด้วยเสานางรายปิดทองประดับกระจกทั้งต้น พนักระเบียงรับเสานางราย ทำเป็นลูกฟักประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีอย่างจีน ตัวพระอุโบสถมีฐานปัทม์รับอีกชั้นหนึ่ง ประดับครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทอง มีเสารายเทียนหล่อด้วยทองแดงล้อมรอบทั้งสี่ด้าน
 ผนังพระอุโบสถ ในรัชกาลที่ ๑ เขียนลายรดน้ำบนพื้นชาดแดง รัชกาลที่ ๓ โปรดเล้าฯ ให้ปั้นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ปิดทองประดับกระจก เพื่อให้เข้ากับผนังมณฑป ปิดทองประดับกระจก บานพระทวารและพระบัญชรประดับมุกทั้งหมด ฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ ๑ ที่เชิงบันไดมีสิงห์หล่อด้วยสำริดบันไดละคู่ รวม ๑๒ ตัว โดยได้แบบมาจากเขมรคู่หนึ่ง แล้วหล่อเพิ่มอีก ๑๐ ตัว

ขอขอบคุณเนื้อหาจากhttp://www.phrasomdej.in.th/index.php/phrasomdej-wat-phrakaew/57-biography-of-wat-phrakaew